พายุสุริยะ 2013




พายุสุริยะ 2013

มารู้จักพายุสุริยะกันก่อนน่ะค่ะ

พายุสุริยะคืออะไร?
        
         พายุสุริยะคือกระแสของอนุภาคพลังงาน สูงที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ด้วยปริมาณและความเร็วสูงกว่าระดับปกติ อนุภาคนี้มีทั้งอิเล็กตรอนและโปรตอน เป็นตัวการทำให้เกิดแสงเหนือใต้ และพายุแม่เหล็ก ซึ่งส่งผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และระบบสายส่งบนโลก


พายุสุริยะมีผลกระทบต่อโลกอย่างไร?

         ปกติพายุสุริยะจะไม่ ส่งผลโดยตรงต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลก เนื่องจากโลกมีบรรยากาศและสนามแม่เหล็กคุ้มกัน มีเพียงนักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอวกาศเท่านั้นที่อาจได้รับ อันตราย ทั้งจากพายุสุริยะและรังสีจากดวงอาทิตย์

        ในอดีต พายุสุริยะเคยสำแดงฤทธิ์เดชให้เห็นแล้วหลายครั้ง เช่น ใน ค.ศ. 1859 พายุสุริยะทำให้สายโทรเลขลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงไหม้หลายแห่งในยุโรปและ อเมริกา ส่วนใน พ.ศ. 2532 พายุสุริยะก็เคยทำให้หม้อแปลงของไฟฟ้าระเบิดจนทำให้ไฟดับทั่วทั้งจังหวัด ควิเบกของแคนาดามาแล้ว นอกจากนี้ดาวเทียมและยานอวกาศที่อยู่ในอวกาศก็อาจเสียหายจากพายุสุริยะได้ ในอดีตเคยมีดาวเทียมหลายดวงเสียหายจากเหตุการณ์นี้มาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันชีวิตประจำวันของผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอวกาศมาก ทั้งโทรศัพท์ โทรทัศน์ การกระจายเสียงวิทยุ ระบบบอกพิกัด ฯลฯ ดังนั้นหากมีพายุสุริยะมาทำให้ดาวเทียมเหล่านี้เสียหายไป ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแน่นอน 


                    ภาพ ดวงอาทิตย์ แผ่ความร้อน จาก NASA/SDO






 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์เผย โลกอาจเผชิญกับลมสุริยะหนักที่สุดในปี 2013 นี้ คาดอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบการสื่อสาร และเทคโนโลยีของมนุษย์
          โดยรายงานดังกล่าว เปิดเผยขึ้นโดย แคทเธอรีน ซัลลิแวน จากองค์การจัดการมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ของสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า ในปี 2013 โลกอาจเผชิญกับลมสุริยะที่หนักที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์จะส่งแผ่ความร้อนออกมามากที่สุด ตามวัฏจักรคาบของดวงอาทิตย์ ที่จะเกิดขึ้นทุก ๆ 11-12 ปี ประกอบกับทุกวันนี้ ชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกอยู่นั้นถูกทำลายและเบาบางลงมาก ทำให้โลกได้รับรังสีอัลตร้าไวโอเลตมากขึ้นทุกวัน

          ดังนั้น เมื่อปรากฏการณ์คาบของดวงอาทิตย์หมุนเวียนมาถึงอีกครั้ง ในช่วงที่ชั้นบรรยากาศเบาบางลงอย่างน่าตกใจ มนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบจากลมสุริยะมากกว่าที่เคยเป็น โดยผลกระทบที่น่าเป็นห่วงที่สุดในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ คือ ระบบดาวเทียม ที่นำมาใช้ประโยชน์ในเรื่องของการสื่อสาร ระบบบอกตำแหน่ง รวมไปถึงระบบไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่า หากมันเกิดขึ้นเมื่อไร ระบบการสื่อสารและไฟฟ้าก็จะหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจของโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้

           นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดว่า จะเกิดลมสุริยะหนักที่สุดในปี 2013 ก็คือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ได้พบว่า ดวงอาทิตย์มีการปะทุรุนแรงมาก ทำให้เกิดลมสุริยะและเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือแสงใต้ หรือ ออโรร่า บนโลก และยังทำให้ระบบการสื่อสารทางวิทยุหยุดชะงักไปชั่วคราว 

           อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมนุษย์โดยตรง เช่น ทำให้โลกร้อนมากจนมนุษย์ไม่สามารถทนอยู่ได้ หรือเกิดธรณีพิบัติต่าง ๆ  แต่จะส่งผลต่อระบบสื่อสารและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้มนุษย์ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่มีอะไรต้องกังวลกันเกินเหตุแต่อย่างใด 



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก NASA/SDO








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น